ตามรายงาน การประท้วงรุนแรงเกิดขึ้นที่หน้าสถานที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 27 มกราคม โดยกลุ่มผู้ประท้วงมีปฏิกิริยาต่อการจัดตั้งเขตรักษาความปลอดภัยชั่วคราวใน Tabankort เมืองที่อยู่ทางเหนือของเกา และพื้นที่พักผ่อนของประเทศMINUSMAยืนยันว่าฝูงชนล้อมรอบบริเวณนั้นและขว้างสถานที่ด้วยหินและค็อกเทลโมโลตอฟทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของสหประชาชาติได้รับบาดเจ็บสองคน ตำรวจ UN ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและยิงเตือนเพื่อสลายฝูงชนและป้องกันไม่ให้เข้าไปในสถานที่
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสามคนและบาดเจ็บอีกแปดคน
แถลงการณ์ที่ออกก่อนหน้านี้ในวันนี้โดยโฆษกของสหประชาชาติกล่าวว่านายบันรู้สึก “เสียใจกับความรุนแรง” และได้ตัดสินใจที่จะเปิดการไต่สวน “เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้”
“เลขาธิการสหประชาชาติย้ำความมุ่งมั่นของสหประชาชาติในการสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพของมาลี” ถ้อยแถลงยังคงดำเนินต่อไป “เขายังคงกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการต่อสู้อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศ”
มันเสริมว่าเลขาธิการเตือนทุกฝ่ายในประเทศถึงความจำเป็นในการเคารพคำมั่นสัญญาหยุดยิงเพื่อเปิดใช้งาน “การเริ่มต้นใหม่อย่างเร่งด่วน” ของการเจรจาสันติภาพ
รัฐบาลในมาลีพยายามที่จะฟื้นฟูเสถียรภาพและสร้างใหม่หลังจากความพ่ายแพ้หลายครั้งตั้งแต่ต้นปี 2555 รวมถึงการทำรัฐประหารโดยทหาร การต่อสู้ครั้งใหม่ระหว่างกองกำลังของรัฐบาลและกบฏทูอาเร็ก และการยึดดินแดนทางเหนือโดยกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางเหนือของมาลียังคงสงบนิ่ง และในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา MINUSMA
และ “หมวกสีน้ำเงิน” ของมันถูกโจมตีอย่างรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าหน่วยงานในการปรับปรุงกล่าวว่า “เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 มิถุนายน 2014 มีรายงานผู้ป่วยยืนยันรายใหม่น้อยกว่า 100 รายในหนึ่งสัปดาห์ใน 3 ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด”
“รายงานผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วรวม 99 รายจาก 3 ประเทศในสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 25 มกราคม: 30 รายในกินี 4 รายในไลบีเรีย และ 65 รายในเซียร์ราลีโอน” ตามข้อมูลล่าสุดของ WHO
“อุบัติการณ์เคสยังคงลดลงในไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน” รายงานระบุ แต่ตั้งข้อสังเกตว่า “กินีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน 30 รายในสัปดาห์จนถึง 25 มกราคม เพิ่มขึ้นจาก 20 รายที่ได้รับการยืนยันในสัปดาห์ก่อนหน้า”มีรายงานผู้ป่วยทั้งหมดมากกว่า 22,000 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 8,800 ราย